ศาลทหารเลื่อนสืบคดีระเบิดราชประสงค์อีกเพราะขาดล่าม ไม่อนุญาตย้ายเรือนจำ เผยผลสอบไม่มีทำร้ายร่างกายผู้ต้องหา
หนึ่งปีผ่านไป การดำเนินคดีระเบิดราชประสงค์ยังพบอุปสรรคไม่ได้เริ่มการพิจารณาอย่างจริงจัง วันนี้ผู้ต้องหา ทนายและอัยการขึ้นศาลพร้อมนัดหมายการให้ปากคำของพยานสองปากแรก แต่การสอบปากคำต้องเลื่อนออกไปอีกครั้งเนื่องจากความไม่พร้อมในเรื่องของล่าม ด้านทนายความทำเรื่องขอล่ามจากนอกของกลุ่มเอ็นจีโออุยกูร์ในสหรัฐฯ
เช้าวันนี้ 23 ส.ค.เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายอาเด็ม คาราดักหรือบิลาล มูฮัมเหม็ดและนายยูซุฟู ไมไรลี สองผู้ต้องหาในคดีวางระเบิดที่ศาลพระพรหมเอราวัณเมื่อ 17 ส.ค. 2558 ไปขึ้นศาลทหารกรุงเทพฯ มีการวางตัวพยานสองปากแรกของฝ่ายโจทก์คือ พ.ต.ท.ทวยเทพ เดวิด วิบูลย์ศิลป์ จากกองบัญชาการตำรวจสันติบาล และ พ.ต.อ.สมเกียรติ พลอยทับทิม จากสน.ลุมพินี อย่างไรก็ตาม นัดหมายสอบปากคำสองวันนี้เป็นอันต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากขาดล่ามเพราะล่ามคนเดิมคือ บัคคาดีรอค ซีโรจีดิน ถูกจับในข้อหามียาเสพติดในครอบครองและขณะนี้หลบหนีหมายศาลอยู่
นายชูชาติ กันภัย ทนายความให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ทีมทนายความได้ร้องขอต่อศาลขอเปลี่ยนตัวล่าม ทีมทนายแจ้งศาลว่าขออนุญาตให้นายโอเมอร์ เคนเนธจากกลุ่มสภาอุยกูร์โลก หรือ World Uyghur Congress ที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงวอชิงตันดีซี เดินทางมาช่วยเป็นล่ามในคดีโดยที่ทางทนายความได้ติดต่อไว้เรียบร้อยแล้วและทางกลุ่มแสดงเจตจำนงยินดีช่วยเหลือโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เชื่อว่าจะเป็นล่ามที่ทำหน้าที่ได้ตามมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ต้องรอฟังจากฝ่ายอัยการที่ขอไปตรวจสอบเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ และหลังจากนั้นศาลจะมีคำสั่งลงมาว่าจะอนุญาตหรือไม่ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์จึงจะรู้ผล และศาลให้เลื่อนการพิจารณาคดีไปเป็นเดือนหน้าคือ 15 และ 16 ก.ย.
นายชูชาติตอบคำถามผู้สื่อข่าวเรื่องลูกความทั้งสองคนว่าขณะนี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด จากเดิมที่เคยร้องว่าถูกทำร้าย โดยในวันนี้กรมราชทัณฑ์ส่งรายงานเข้ามายังศาลว่า ในเรื่องการขอย้ายเรือนจำนั้น เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีความมั่นคง การนำจำเลยไปขังปนกับนักโทษอื่นๆอาจจะไม่ปลอดภัย จึงให้อยู่ที่เดิมต่อไปคือที่มณฑลทหารบกที่ 11 หรือมทบ. 11 ด้านจำเลยไม่ขัดข้อง และขณะนี้มีการดูแลในเรื่องอาหารฮาลาลและอื่นๆตามปกติ ส่วนเรื่องที่จำเลยแถลงว่าถูกทำร้าย ราชทัณฑ์ส่งหนังสือบอกว่าตรวจแล้วไม่พบว่ามีการทำร้าย เฉพาะในการคุมขังใน “ช่วงหลัง” นายชูชาติย้ำว่าเท่าที่ดูไม่มีปัญหาอะไร เจ้าหน้าที่ดูแลอาหารการกินให้อย่างดี ทนายความได้เข้าไปเยี่ยมสองสามครั้งแล้วตั้งแต่เดือนถือศีลอดที่ผ่านมา และสามารถเยี่ยมได้ตามปกติ
ส่วนกรณีการทำร้ายร่างกายนั้นมีการสอบสวนกันขึ้น ในการขึ้นศาลหนก่อนหน้านี้ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่นำตัวคนทั้งคู่ลงจากรถเพื่อจะเดินเข้าไปในศาล นายคาราดักได้ร้องตะโกนออกมาได้ยินในหมู่ผู้สื่อข่าวว่าเขาถูกทำร้ายร่างกาย “ผมไม่ใช่สัตว์”
สำหรับในหนนี้เจ้าหน้าที่นำตัวคนทั้งสองเข้าและออกจากศาลโดยนั่งมาในรถติดกระจกทึบไม่สามารถมองเห็นได้ โดยนำลงไปด้านในไม่ผ่านกลุ่มผู้สื่อข่าวที่เฝ้ารอดูอยู่ด้านนอกศาลแต่อย่างใด วันนี้เจ้าหน้าที่ยอมให้ผู้สังเกตการณ์จากในและนอกประเทศเข้าดูกระบวนการในห้องพิจารณาได้ ส่วนผู้สื่อข่าวนั้นเจ้าหน้าที่กำหนดให้เข้าฟังได้เพียง 10 คน
ส่วนกระบวนการดำเนินคดีเอง นายชูชาติให้ความเห็นว่าคงจะต้องใช้เวลา อาจจะกินเวลายาวนานไม่ต่ำกว่าปลายปีหน้า เพราะมีพยานเป็นจำนวนมากรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 250 ปาก คือในฝ่ายโจทก์มีไม่ต่ำกว่า 200 ปาก ทางฝ่ายจำเลยอีกราว 50 ปาก ขณะนี้ศาลได้นัดหมายล่วงหน้ายาวไปจนถึงปลายปี จะมีการขึ้นศาลทุกเดือนแม้ว่าพยานสำคัญๆนั้นนัดสอบปากคำได้วันละปาก
Post A Comment:
0 comments: