นักอนุรักษ์ชี้ฟื้นฟูป่าชายเลนช่วยป้องกันชายฝั่งถูกกัดเซาะได้ดีกว่าการปลูกป่าใหม่
ผลการศึกษาขององค์การพื้นที่ชุ่มน้ำนานาชาติ พบว่า การปล่อยให้ป่าชายเลนฟื้นตัวขึ้นเองตามธรรมชาติ จะช่วยป้องกันปัญหาชายฝั่งถูกกัดเซาะได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีประโยชน์ต่อระบบนิเวศ สัตว์น้ำ รวมทั้งมนุษย์ มากกว่าการดำเนินโครงการปลูกป่าชายเลนขึ้นมาใหม่
องค์การพื้นที่ชุ่มน้ำนานาชาติ ศึกษาเรื่องนี้จากการดำเนินโครงการนำร่องที่จังหวัดชวากลาง ของอินโดนีเซีย และพบว่า การใช้ทำนบที่น้ำทะเลสามารถซึมผ่านได้เพื่อดักและกักเก็บตะกอนที่ถูกคลื่นซัดเข้ามา จะช่วยให้ป่าชายเลนกลับมาฟื้นตัวได้เองตามธรรมชาติ โดยที่พันธุ์ไม้ที่ขึ้นมานั้นจะมีความหลากหลาย และทนทานต่อสภาพแวดล้อมมากกว่าการปลูกป่าขึ้นมาใหม่ เพราะการปลูกป่าบางโครงการใช้พันธุ์ไม้ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพป่าชายเลนในท้องที่ ส่งผลให้พืชที่ปลูกขึ้นมาใหม่มีอัตราการรอดชีวิตต่ำ
นักอนุรักษ์ธรรมชาติ ชี้ว่า ความหลากหลายของพันธุ์ไม้ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติจะส่งผลดีหลายประการต่อระบบนิเวศของป่าชายเลน เพราะลักษณะของลำต้น และระบบรากของพืชที่แตกต่างกันทำให้ป่าชายเลนทนทานต่อกระแสคลื่น และช่วยป้องกันปัญหาชายฝั่งถูกกัดเซาะได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยสำหรับปลาและสัตว์น้ำชาติต่าง ๆ ด้วย
ผลการศึกษาครั้งนี้สอดคล้องกับรายงานขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ที่ทำการศึกษาหลังเกิดเหตุคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่มเอเชียเมื่อปี 2547 และพบว่า หมู่บ้านริมฝั่งทะเลในประเทศศรีลังกาซึ่งมีแนวป่าชายเลนที่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น และป่าละเมาะที่เต็มไปด้วยต้นไม้เล็ก ๆ นั้นทำหน้าที่เสมือนป้อมปราการตามธรรมชาติที่ช่วยปกป้องชุมชนจากคลื่นยักษ์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพียง 2 คน ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากชุมชนตามแนวชายฝั่งอื่น ๆ ที่ไม่มีป่าชายเลนและป่าละเมาะที่อุดมสมบูรณ์นั้นมีถึง 6,000 คน #mangroveforest
Post A Comment:
0 comments: