About

About
woywhyweb

slider

Recent

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

คลังบทความของบล็อก

Navigation

เจ้าของรีสอร์ตภูทับเบิก เล็งฟ้องขอค่าเสียหาย ธุรกิจพัง-ของถูกทำลาย

ผู้ประกอบการรีสอร์ตชื่อดังบนภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ เล็งฟ้องขอค่าเสียหายจากรัฐ ธุรกิจพัง ทรัพย์สินเสียหาย เป็นหนี้จำนวนมาก หลัง คสช.มีคำสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำพื้นที่ป่า

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 19 ส.ค. 59 นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานปล่อยแถวร่วมกับอธิบดีกรมป่าไม้ อธิบดีกรมพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ เจ้าหน้าที่ทหารและคณะเจ้าหน้าที่ป่าไม้เจ้าหน้าที่ปกครอง อส. และตำรวจ ที่สนธิกำลังกว่า 650 นาย เพื่อเดินทางเข้ารื้อถอนรีสอร์ตบนภูทับเบิก ตามคำสั่ง คสช.ที่ 35/2559 ที่ถูกศาลพิพากษาสั่งให้รื้อถอน 19 ราย

สำหรับรายชื่อรีสอร์ต 17 แห่งที่ถูกปิดป้ายประกาศให้รื้อถอน ประกอบด้วย 1. โรงเตี๊ยม 2. สานฝันรีสอร์ต 3. คานาอันร้านค้า 4. คานาอันบ้านพัก 5. ทับเบิกภูฏาน 6. ไร่ตายาย 7. บ้านสายหมอกรีสอร์ต 8. บ้านดอยน้ำเพียงดิน ภูทองคำ 9. อิงฟ้า 10. สกายวิว 11. ทับเบิกวิลเลจ 12. เคียงดาว 13. มอนเตอริโอ รีสอร์ต 14. บ้านชมวิว 15. ประชารีสอร์ตภูทับเบิก 16. ทับเบิกอินดี้ 17. ทับเบิกอีโคแคมป์

ทั้งนี้ พบว่าในช่วงเช้าที่รีสอร์ตโรงเตี๊ยม ซึ่งเป็นที่พักชื่อดังบนภูทับเบิก ได้ให้ช่างเร่งดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตลอดตั้งแต่เมื่อวานจนถึงเช้าวันนี้ ท่ามกลางอุณหภูมิหนาวเย็น และมีหมอกลงจัดตลอดเส้นทาง รวมทั้งสายฝนตกเป็นระยะ

นายกุญช์ภัสส์ พัฒนฉัตรรุ่งรุจ เจ้าของโรงเตี๊ยม กล่าวว่า ได้นำเอกสารแสดงกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนเองอาศัยอยู่ก่อนที่จะมีประกาศ และได้ยื่นเรื่องต่อศาลปกครองเพื่อให้คุ้มครองชั่วคราวแล้ว และยื่นเรื่องไปที่กระทรวงยุติธรรมเพื่อให้ความเป็นธรรมกับตนเอง และแจ้งว่าระยะเวลาที่ให้รื้อถอนเพียง 37 วันนั้น เป็นระยะเวลาที่กระชั้นชิดเกินไป สิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินซึ่งมีเป็นจำนวนมากต้องใช้ระยะเวลาในการขนย้าย จึงไม่สามารถดำเนินการขนย้ายได้ทัน รวมถึงตนเองมีหนี้สินมากมาย และมีลูกค้าชำระเงินค่าที่พักล่วงหน้าเป็นเวลานานแล้วจึงต้องรองรับลูกค้าตามสัญญาที่ได้รับเงินเอาไว้อีก ขณะที่ อากาศบนภูทับเบิกแห่งนี้แปรปรวน บางวันมีพายุเข้าฝนตกกระหน่ำ และรีสอร์ตบ้านกลางหมอกที่ปลูกอยู่ติดกับของตนเอง ไม่เคยถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตลอดระยะเวลาสองปีที่ผ่านมาเลยด้วยซ้ำ

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ก่อนมีผู้ตรวจราชการแผ่นดินเข้ามาตรวจสอบ จึงได้มีการดำเนินคดีกับรีสอร์ตบ้านกลางหมอก ทำให้รู้สึกถูกเลือกปฏิบัติ อีกทั้งประกาศฉบับที่ 66/2557 ระบุว่าการกระทำการใดๆ ต้องไม่กระทบผู้ที่อยู่ก่อนและอยู่เดิม แต่สิ่งนี้กระทบเต็มๆ และได้ยื่นเรื่องให้กระทรวงยุติธรรม ตรวจสอบว่าพื้นที่อยู่ในลุ่มน้ำ 1A หรือไม่ เพราะลุ่มน้ำ 1A ไม่สามารถอยู่อาศัยได้ แล้วทำไมคนอื่นอยู่อาศัยได้แต่ตนอยู่อาศัยไม่ได้

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจากเพชรบูรณ์ อำเภอเมือง อำเภอหล่มสัก อำเภอหล่มเก่า เข้าดำเนินการตัดกระแสไฟฟ้า นายกุญช์ภัสส์ จึงยื่นหนังสือให้กับอธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมขอรื้อถอนเองและทวงถามว่าความเสียหายที่เกิดขึ้น ใครกันรับผิดชอบ โดยอธิบดีกรมป่าไม้แจ้งว่าต้องดำเนินการรื้อถอนตามแผนการปฏิบัติงาน และคำสั่งของ คสช. หากผู้ประกอบการจะดำเนินการรื้อถอนร่วมกับเจ้าหน้าที่ก็สามารถกระทำได้ แต่เจ้าหน้าที่ก็จะต้องดำเนินการต่อไปตามขั้นตอน ที่ผ่านมานั้นเจ้าหน้าที่ให้เวลาในการรื้อถอนมากพอสมควรเล้ว


นายบัณทิตย์ กล่าวว่า กรณีเจ้าของรีสอร์ตเอนกาย ให้ที่อยู่เรื่องหมู่ไม่ถูกต้อง ทำให้รอดพ้นจากการถูกดำเนินคดีนั้น ที่ตั้งอยู่ในหมู่ 8 แต่มีการปรับเปลี่ยนเป็นหมู่ 6 ตำบลบ้านเนิน จึงทำให้ไม่อยู่ในคำสั่งถูกรื้อถอนนั้น จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการเข้าตรวจสอบเรื่องเขตแดนพื้นที่ของหมู่บ้าน โดยจะต้องยึดถือระเบียบของทางราชการเป็นหลัก ไม่ใช่ว่าจะให้ใครมาอ้างอนุมานเอาว่าอยู่หมู่ไหนไม่ได้ ขอยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือในการรื้อถอน และขอย้ำว่าขอให้พวกเราอย่าได้คิด หรือฟัง หรืออย่าไปอนุมานเอาเอง เพราะทุกอย่างจะต้องทำภายในกฎระเบียบและข้อกฎหมาย เราก็ไม่ได้ละเว้นที่จะดำเนินคดีกับใครก็ตามที่ทำผิด ตามกฎหมายยืนยันว่าเรื่องนี้จะต้องตรวจสอบให้อย่างแน่นอน

พันเอกพงษ์เพชร เกษสุภะ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (18 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ได้เข้าสำรวจพื้นที่ดังกล่าว และอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบแนวเขตที่ชัดเจน และยังพบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าใหม่เพิ่มอีก โดยมีนายทุนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการจับกุม และแจ้งข้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้ประกอบการนั้นก็ได้เริ่มให้ความร่วมมือ เพราะเห็นว่าการดื้อดึงไปก็คงไม่มี หรือไม่เกิดประโยชน์อะไร

ส่วนกระบวนการทำงานในการรื้อถอนก็จะดำเนินเป็นส่วนๆ ไป ทรัพย์สินที่เจ้าของไม่ได้เก็บ เราก็จะเก็บให้ และคิดค่าใช้จ่ายกับเจ้าของอีกครั้งหนึ่ง ส่วนกรณีที่มีฝนตกลงมาระหว่างเจ้าหน้าที่ทำการรื้อถอนนั้น ไม่เป็นอุปสรรคเท่าไร แต่อาจจะทำให้การทำงานเป็นไปด้วยความลำบากบ้างเพียงเล็กน้อย แต่โดยภาพรวมเจ้าหน้าที่ได้วางแผนปฏิบัติอย่างชัดเจน ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนไป วันนี้เราใช้เวลาครึ่งวันช่วงเช้าในการเก็บทรัพย์สินตามขั้นตอน อีกทั้ง เจ้าหน้าที่ก็ได้ทำด้วยความรอบคอบ และได้มีการแจ้งเจ้าของเก็บแล้วแต่ก็ไม่ได้ดำเนินการอะไร เราจึงต้องดำเนินการเก็บให้ คิดว่าภายในระยะเวลาสามวันจะได้ภาพการรื้อถอนชัดเจน แต่ด้วยโครงสร้างสถานที่ที่เป็นเหล็กตัวซี เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้แก๊สตัดเหล็กในการดำเนินการ ซึ่งก็ได้เตรียมอุปกรณ์มาพร้อมแล้ว

กระทั่งเวลา 14.30 น. ของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ใช้รถแบ็กโฮทุบทำลายอาคารกระจกสองหลังขนาดยาว 3 เมตร กว้าง 2 เมตร ทิ้งเป็นเศษซาก ทำให้ นายกุญช์ภัสส์ ไม่พอใจ และพูดว่า "ทำไมต้องทำกันแบบนี้ ไหนว่าจะทำด้วยความละมุนละม่อมไง แล้วกระจกรื้อได้ทำไมไม่รื้อ อุปกรณ์ต่างๆ ก็สามารถรื้อได้ทำไมไม่ทำแบบที่พูดเอาไว้ ผมเตรียมช่างกระจกมาแล้ว ทำแบบนี้มันรังแกประชาชน ผมจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับเจ้าหน้าที่"

ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า กำลังเจ้าหน้าที่ที่รื้อโรงเตี๊ยมนั้น อาจจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 วัน เพราะสิ่งปลูกสร้างค่อนข้างมาก จากนั้นจะทยอยรื้อไปเรื่อยๆ โดยไม่สามารถกำหนดกรอบของเวลาได้ ส่วนข้าวของที่ขนไปจะนำไปเก็บไว้ที่ ค่ายกองพันทหารม้าที่ 28 ค่ายพ่อขุนบางกลางหาว ต.บุ่งน้ำเต้า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ต่อไป
Share
Banner

Post A Comment:

0 comments: