About

About
woywhyweb

slider

Recent

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

คลังบทความของบล็อก

Navigation

ชายไทยฆ่าตัวตายมากกว่าผู้หญิง 4 เท่า กรมสุขภาพจิตแนะสังคมใส่ใจคนใกล้ชิด

บีบีซีไทย - BBC Thai

ชายไทยฆ่าตัวตายมากกว่าผู้หญิง 4 เท่า กรมสุขภาพจิตแนะสังคมใส่ใจคนใกล้ชิด

กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เผยรายงานสถานการณ์ฆ่าตัวตายของคนไทย เนื่องในวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก 10 ก.ย. พบว่าสถิติผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายในประเทศไทยตลอดปี 2558 ที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งหมด 4,205 ราย หรือคิดเป็น 6.47% ของอัตราประชากรแสนคน เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ซึ่งอยู่ที่ 6.08% โดยภายใน 1 วันมีคนไทยฆ่าตัวตายสำเร็จราว 11-12 ราย และผู้ชายฆ่าตัวตายมากกว่าผู้หญิง 4 เท่า แต่ยังเป็นสถิติที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก

ส่วนสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนฆ่าตัวตาย 3 อันดับแรกในไทย ได้แก่ ปัญหาด้านความสัมพันธ์ เช่น ความรัก ความหึงหวง ปัญหาทางกายหรือทางจิต เช่น ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าหรือน้อยใจที่คนใกล้ชิดดุด่า ตามด้วยปัญหาเศรษฐกิจ เช่น ตกงาน

ขณะที่กลุ่มคนวัยทำงานอายุระหว่าง 35-39 ปี และผู้สูงอายุราว 70-74 ปี เป็นช่วงวัยที่มีการฆ่าตัวตายมากที่สุด และ 3 อาชีพที่ฆ่าตัวตายมากที่สุด คือ ผู้ใช้แรงงาน คิดเป็น 37.5% ของผู้ก่อเหตุฆ่าตัวตายทั้งหมด ตามด้วยเกษตรกร คิดเป็น 30.7% และผู้รับราชการอีก 2.5%

จากข้อมูลของกรมสุขภาพจิตพบว่าร้อยละ 80 ของคนที่ฆ่าตัวตายมีการวางแผนและแสดงพฤติกรรมก่อนลงมือประมาณ 2-3 วัน ขณะที่ร้อยละ 20 ลงมือเพราะหุนหันพลันแล่น หากลงมือมากกว่า 5 ครั้งแล้วยังไม่สำเร็จจะลดความอยากฆ่าตัวตายลงไป คนในสังคมจึงต้องเฝ้าระวังและช่วยเหลือคนเหล่านี้ให้ได้ เนื่องจากผู้ที่ฆ่าตัวตายไม่ใช่คนสิ้นคิด แต่เป็นเพราะสิ้นหวัง ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทั้งในคนปกติและผู้ป่วยจิตเวช

นอกจากนี้ ผู้ที่คิดจะลงมือฆ่าตัวตายมักพยายามสื่อสารบอกคนรอบข้างผ่านวิธีการต่างๆ ทั้งคำพูดสั่งเสีย รวมถึงการใช้สื่อโซเชียลมีเดียในการบรรยายความรู้สึก ซึ่งคนรอบข้างไม่ควรมองว่าเป็นการเรียกร้องความสนใจ แต่ต้องให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยเน้นที่การแสดงความใส่ใจและรับฟัง เพื่อลดความเสี่ยงของผู้ที่จะฆ่าตัวตาย

ขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลกประมาณการณ์ว่ามีคนฆ่าตัวตายทั่วโลกมากกว่า 800,000 คนในแต่ละปี
Share
Banner

Post A Comment:

0 comments: