
เกาหลีเหนือทดลองนิวเคลียร์แล้วยังเป็นสถานที่น่าเที่ยวของคนไทยอยู่หรือไม่
การทดลองนิวเคลียร์ครั้งที่ 5 ของเกาหลีเหนือผ่านพ้นไปเพียง 10 วัน บรรยากาศในคาบสมุทรเกาหลีก็ร้อนระอุขึ้น และประชาคมนานาชาติต่างแสดงออกว่าไม่เห็นด้วย พร้อมทั้งมีการหารือเพิ่มมาตรการลงโทษเกาหลีเหนือที่ฝ่าฝืนกติกา อย่างไรก็ตาม ในมุมของคนไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศของโลกที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเที่ยวได้นั้น จะมองเรื่องที่เกิดขึ้นในเกาหลีเหนืออย่างไร เกาหลีเหนือยังเป็นประเทศที่น่าสนใจ และดึงดูดใจนักท่องเที่ยวอยู่หรือไม่
บีบีซีไทยสัมภาษณ์บริษัทท่องเที่ยวและคนไทยที่เคยไปเที่ยวเกาหลีเหนือ พวกเขาสะท้อนมุมมองที่ต่างออกไป โดยบริษัทท่องเที่ยวยืนยันว่ายังไม่ได้รับผลกระทบอะไร และเกาหลีเหนือยังคงเป็นประเทศน่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวสูงวัยที่ผ่านการท่องเที่ยวแล้วหลายประเทศ เริ่มอยากลองไปเที่ยวที่แปลกๆ ดูบ้าง ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยที่เคยเยือนเกาหลีเหนือมองว่า เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่คนไทยควรเรียนรู้และทำความเข้าใจ พร้อมทั้งวิพากษ์นโยบายของชาติมหาอำนาจในเรื่องการลงโทษเกาหลีเหนือว่าอาจจะไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใดๆ
กัลยาณี ประจวบอารี ตัวแทนบริษัท ไทยเฟื่องฟ้า ทราเวิล จำกัด ซึ่งมีโปรแกรมเที่ยวเกาหลีเหนือหลายโปรแกรมไว้บริการบอกกับบีบีซีไทยว่าหลังการทดลองนิวเคลียร์ครั้งที่ 5 เมื่อสองสัปดาห์ก่อน บริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ในแง่ของยอดจองทัวร์ หรือคำถามที่แสดงความกังวลจากลูกค้าทัวร์แต่อย่างใด โดยระบุว่า ทางบริษัทให้บริการทัวร์เส้นทางนี้มาหลายปีแล้ว เน้นเดินทางในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเพราะมีภูมิทัศน์ที่สวยงามและฤดูหนาวที่มีสกีรีสอร์ตให้นักท่องเที่ยวสัมผัสบรรยากาศยามหิมะตกและเล่นสกี แต่ยังไม่เคยจัดทัวร์ช่วงโลว์ซีซั่น คือ ช่วงฤดูฝน เพราะเดินทางลำบาก ส่วนใหญ่ลูกทัวร์เป็นคนวัยเกษียณ หรือผู้สูงอายุที่เที่ยวมาแล้วทั่วโลก หรือผ่านการท่องเที่ยวมามากแล้ว และเริ่มอยากเดินทางไปยังที่แปลกๆ ขณะที่จำนวนผู้เดินทางส่วนใหญ่เฉลี่ยราว 10-15 คนต่อ 1 ทริป
เด่น มหาวงศนันท์ กรรมการกลางสมาคมท่องเที่ยวภายในประเทศ และตัวแทนบริษัทอินสปิริต ฮอลิเดย์ จำกัด บอกกับบีบีซีไทยว่า เส้นทางท่องเที่ยวเกาหลีเหนือนั้นเป็นเส้นทางที่เปิดมาหลายปี และส่วนมากบริษัททัวร์ที่เปิดเส้นทางนี้จะมีความร่วมมือกันอยู่เพื่อรองรับลูกค้าที่มีความต้องการไปเกาหลีเหนือ ซึ่งบางครั้งบริษัทหนึ่งๆ อาจจะไม่ได้มีลูกทัวร์ครบ 10 คน แต่บริษัททัวร์สามารถรวมกลุ่มลูกทัวร์ระหว่างบริษัทได้เพื่อให้สามารถจัดการเดินทางให้กับลูกค้าได้ในช่วงเวลาที่ลูกค้าต้องการ โดยลูกค้าของบริษัทอินสปิริต ฮอลิเดย์ ที่สนใจไปเกาหลีเหนือก็มักเป็นกลุ่มลูกค้าที่ท่องเที่ยวมาหลายประเทศและอยากหาประสบการณ์แปลกใหม่
เด่น ระบุว่าการท่องเที่ยวเกาหลีเหนือนั้นยังปลอดภัย เนื่องจากพื้นที่ทดลองนิวเคลียร์อยู่ห่างจากกรุงเปียงยางและเส้นเขตแดนที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก และเกาหลีเหนือยังมีเสน่ห์และราคาไม่แพงเมื่อเทียบกันเส้นทางท่องเที่ยวอื่นๆ และมีกิจกรรมน่าสนใจ เช่น กายกรรมเปียงยาง การเยือนเส้นเขตแดนเกาหลีเหนือ-ใต้ และการเรียนรู้เส้นทางประวัติศาสตร์สงครามเกาหลี โดยบริษัทดูแลทุกขั้นตอนตั้งแต่การจองตั๋วเครืองบิน ที่พักและการขอวีซ่า ซึ่งจะใช้เวลาในการขอวีซ่าไม่เกิน 5-10 วัน
อรรคณัฐ วันทนะสมบัติ เป็นคนไทยที่เคยมีประสบการณ์ท่องเที่ยวในเกาหลีเหนือเมื่อปี 2555 ขณะที่เขาเป็นนักศึกษาที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า เขาเลือกเดินทางไปเกาหลีเหนือเพราะอยากเห็นว่าประเทศเกาหลีเหนือเป็นอย่างไร โดยเดินทางไปพร้อมคณะนักศึกษาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเขาเป็นคนไทยคนเดียวในทริปและต้องผ่านการสัมภาษณ์เพื่อขอวีซ่าจากสถานทูตเกาหลีเหนือประจำประเทศไทยโดยใช้เวลากว่า 1 ชม. และนั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้รู้ว่ามีสถานทูตเกาหลีเหนืออยู่ในกรุงเทพฯ
“พอดีว่าคนที่เป็นเจ้าหน้าที่ทูตเรียนปริญญาโทที่จุฬาฯ พูดไทยได้ มีเจ้าหน้าที่ระดับซีเนียร์ของเขามานั่งฟัง เขาถามว่าทำไมอยากไป ผมก็บอกว่าไปเกาหลีใต้บ่อยแล้วนะ ก็ไปเป็นสิบครั้งแล้ว ได้ยินมาเยอะแต่ไม่เชื่อก็อยากไปเห็นด้วยตา เขาท่าทีเป็นมิตร โอเค สถานทูตไม่เหมือนที่ไหนที่เคยไป เป็นบ้านธรรมดา รั้วสูง ไม่มีคน ผมไปกดออด เขาก็บอกให้ไปรอแล้วค่อยเปิดประตูเข้าไปในสถานทูต”
อรรคณัฐมองว่า คนไทยยังติดตามเรื่องราวเกาหลีเหนือแบบตลกขบขันหรือเห็นเป็นของแปลกมากกว่าจะทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในคาบสมุทรเกาหลี และมองว่าสื่อไทยเน้นแปลข่าวจากสื่อตะวันตกที่รายงานมาจากเกาหลีใต้ ซึ่งก็เน้นเนื้อหาไปในทิศทางตลกขบขันและแปลก ขณะที่ข้อมูลเกี่ยวกับเกาหลีเหนือและปัญหาในคาบสมุทรเกาหลีในภาษาไทยก็เป็นเรื่องหาได้ยาก
“ผมคิดว่าเราควรจะศึกษาเป็นแบบอย่างว่าประเทศที่มีการปกครองเป็นเผด็จการปิดหูปิดตาประชาชนไม่ได้รับข่าวสาร ก็จะมีลักษณะแบบนี้ มีการโฆษณาชวนเชื่อ รัฐควบคุมทุกอย่าง คนไทยก็น่าจะฉุกคิดได้ แต่เสียดายว่าข่าวที่แปลมาเป็นไทยโดยมากเป็นข่าวที่เป็นไปในเชิงตลกขบขัน ข้อมูลเกี่ยวกับเกาหลีเหนือมีน้อยมาก หนังสือภาษาไทยแทบไม่มี ไม่รู้จะไปหาความรู้เพิ่มเติมจากไหน เลยดูเหมือนมันอยู่ไกลความรับรู้ของคนไทยทั้งที่มันอยู่ใกล้นิดเดียว คนไทยรู้สึกใกล้ชิดเกาหลีใต้มาก แต่ไกลเกาหลีเหนือมาก”
อรรคณัฐซึ่งเป็นมหาบัณทิตโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาของจุฬาฯ มองประเด็นในคาบสมุทรเกาหลีว่าการกดดันอาจจะไม่ได้ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงมากกว่าการเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงจากข้างใน ให้คนในเกาหลีเหนือทั้งประชาชนและผู้นำรับรู้โลกภายนอกมากขึ้น และควรมีท่าทีผ่อนปรนกว่านี้ โดยเขาเห็นว่าทิศทางของญี่ปุ่น ซึ่งเน้นการใช้อำนาจอย่างอ่อน เน้นการเจรจาผ่านประเทศที่ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเกาหลีเหนือน่าจะส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงมากกว่า และเชื่อว่าประเทศที่มีอิทธิพลต่อเกาหลีเหนืออย่างมากก็คือจีน ซึ่งขณะนี้เขาไม่แน่ใจนโยบายของจีนต่อเกาหลีเหนือเช่นกัน
“เราไปเที่ยว เขาก็พยายามฉายภาพที่อยากให้เราเห็น และผมคิดว่ามันเป็นเรื่องเดียวกัน การแสดงออกของเกาหลีเหนือ ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ ขีปนาวุธ การทดลองนิวเคลียร์จากเดิมปกติสามสี่ปีต่อครั้ง แต่ปีนี้ทดลองนิวเคลียร์สองครั้ง มันคือการพยายามแสดงออกอะไรบางอย่างที่เรียกร้องความสนใจจากชาวโลก ผมคิดว่าเขาไม่มีความทะเยอทะยานที่จะโจมตี เท่าที่ตามๆ ดู เวลาที่ชาติมหาอำนาจกดดันด้วยการแซงก์ชั่นไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตามมันไม่เคยทำสำเร็จในทางปฏิบัติ ไม่สามารถเปลี่ยนนโยบายของประเทศนั้นๆ เลย เราน่าจะปฏิสัมพันธ์กับเขา มันควรเปลี่ยนจากภายใน การเปลี่ยนจากภายในไม่มีทางอื่นนอกจากปฏิสัมพันธ์กับเขา เปลี่ยนความคิดของประชาชนและชนชั้นนำเขาเอง”
บีบีซีไทยโทรศัพท์ไปที่สถานทูตเกาหลีเหนือประจำประเทศไทย เพื่อสอบถามรายละเอียดเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยในปีที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ข้อมูลเพิ่มเติม
(ภาพประกอบจากคลังภาพ: วิถีชีวิตของชาวเกาหลีเหนือในกรุงเปียงยาง)
Post A Comment:
0 comments: