About

About
woywhyweb

slider

Recent

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

คลังบทความของบล็อก

Navigation
Recent News

วันนี้ที่เกาะโรเทของอินโดนีเซีย เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสาหร่ายทะเล

บีบีซีไทย - BBC Thai

วันนี้ที่เกาะโรเทของอินโดนีเซีย เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสาหร่ายทะเลยังได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่วไหลอยู่หรือไม่ ?

ชาวบ้านที่เกาะโรเท ในจังหวัดติมอร์ตะวันตกของอินโดนีเซีย ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสาหร่ายทะเล โดยอาชีพนี้เป็นอาชีพหลักที่นำรายได้หลักแสนบาทต่อปีมาสู่ชุมชนบนเกาะแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลจากแหล่งขุดเจาะมอนทาราของบริษัท พีทีทีอีพี ออสตราเลเซีย (PTTEP Australasia) บริษัทย่อยในสังกัดของบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (ปตท.สผ.) เมื่อปี 2009 ชาวบ้านบอกว่าสาหร่ายที่เพาะเลี้ยงไว้เกิดเปลี่ยนสีและได้ตายลงทั้งหมด นอกจากนี้ น้ำทะเลยังมีเงาสะท้อนสีรุ้ง และมีปลาตายจำนวนมาก สภาพแวดล้อมของทะเลติมอร์เปลี่ยนไป

กลุ่มเกษตรกร 13,000 คน รวมตัวกันยื่นฟ้องบริษัทผู้ขุดเจาะน้ำมันต่อศาลในนครซิดนีย์ของออสเตรเลียเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เรียกร้องค่าเสียหาย 200 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 5,000 ล้านบาท จากการที่ปล่อยให้น้ำมันดิบรั่วไหลออกมาปนเปื้อนในน้ำทะเลถึงวันละราว 300,000 ลิตร เป็นเวลาถึง 70 วัน ซึ่งน้ำมันดิบที่รั่วออกมานั้น มากพอที่จะเติมสระขนาดมาตรฐานโอลิมปิกให้เต็มได้ถึง 10 สระ

บริษัทที่ปรึกษาทางกฎหมาย มอริซ แบล็คเบิร์น ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มเกษตรกรออกแถลงการณ์ระบุว่า เหตุดังกล่าวได้ทำลายสิ่งแวดล้อมและการดำรงชีวิตของกลุ่มเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสาหร่ายทะเลกว่าหมื่นคน โดยนับแต่ปี 2009 ที่เกิดเหตุเป็นต้นมา ความพยายามเพาะเลี้ยงสาหร่ายทะเลรอบใหม่ไม่ได้ผล โดยสาหร่ายตายเป็นเวลาถึง 4 ปีติดต่อกัน ทุกวันนี้ก็ยังเพาะปลูกไม่ได้ผลเต็มที่นัก ชาวบ้านบางคนต้องเปลี่ยนอาชีพไปใช้แรงงาน รับจ้างทำงานก่อสร้างโรงแรมและรีสอร์ตบนเกาะ

ด้าน ปตท.สผ. ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า ทางบริษัทได้ทำการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เพื่อติดตามผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทะเลติมอร์ ซึ่งผลการศึกษายืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพในบริเวณที่ติดกับน่านน้ำอินโดนีเซีย และจากภาพถ่ายจากดาวเทียม ภาพถ่ายทางอากาศ รวมถึงการสร้างแบบจำลองการเคลื่อนที่ของคราบน้ำมัน (Trajectory Modelling) พบว่าคราบน้ำมันส่วนใหญ่ (98%) อยู่ในน่านน้ำออสเตรเลีย และไม่ได้แพร่เข้าสู่แนวชายฝั่งของออสเตรเลียหรืออินโดนีเซียแต่อย่างใด ดังนั้นจึงแทบเป็นไปไม่ได้ ที่ทะเลและแนวชายฝั่งของเกาะโรเท ซึ่งอยู่ไกลออกไปถึง 250 กิโลเมตรจะได้รับผลกระทบดังที่อ้าง

อย่างไรก็ตาม พีทีทีอีพี ออสตราเลเซีย ระบุว่าการวิจัยดังกล่าวไม่รวมถึงน่านน้ำบริเวณโดยรอบเกาะโรเท เพราะไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลอินโดนีเซียให้เข้าไปสำรวจผลกระทบ #Indonesia #Seaweed #Environment


Share
Banner

Post A Comment:

0 comments: