
ผู้ขับขี่สูงอายุมีแนวโน้มเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่าคนหนุ่ม
งานวิจัยชิ้นล่าสุดของมหาวิทยาลัยสวอนซี ในแคว้นเวลส์ของสหราชอาณาจักรชี้ว่า ผู้ขับขี่รถยนต์ที่อยู่ในวัยราว 70 ปี ไม่ใช่ผู้ใช้รถที่อันตรายอย่างที่หลายฝ่ายเคยเข้าใจกัน ทั้งยังมีแนวโน้มจะประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนน้อยกว่าผู้ขับขี่ชายอายุ 17-21 ปี ราว 3-4 เท่าตัว
มีการนำเสนองานวิจัยชิ้นนี้ในงานเทศกาลวิทยาศาสตร์อังกฤษในเมืองสวอนซี โดย ศ.ชาร์ลส์ มัสเซลไวท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาการผู้สูงอายุ ศึกษาเรื่องนี้โดยวิเคราะห์ข้อมูลอุบัติเหตุบนท้องถนน และพบว่า ผู้ใช้ยานพาหนะวัยชราและวัยหนุ่มสาวมักเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป โดยพบว่าคนหนุ่มอายุ 17-21 ปี มักประสบอุบัติเหตุที่เกิดจากความผิดพลาดของตนเอง โดยไม่มีรถคู่กรณี เช่น อุบัติเหตุจากการขับรถเร็วเกินไป หรือสูญเสียการควบคุมรถมากกว่า
ขณะที่ผู้ขับขี่วัยชรามักเกิดอุบัติเหตุ เมื่อตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น โดยอุบัติเหตุส่วนใหญ่เป็นการเฉี่ยวชนเล็กน้อย และมักมีคู่กรณีเป็นผู้ขับขี่สูงวัยเช่นกัน เพราะคนวัยนี้มักมีความผิดพลาดในการขับขี่คล้าย ๆ กัน โดยการศึกษาพบว่า ผู้ขับขี่ยานพาหนะในวัยราว 70 ปี มักเกิดอุบัติเหตุช่วงเลี้ยวขวา และช่วงแซงรถยนต์คันอื่น ส่วนหญิงชรามักประสบอุบัติเหตุเมื่อต้องบังคับรถให้เคลื่อนไปในพื้นที่แคบ ๆ
ศ.มัสเซลไวท์ บอกว่าสาเหตุที่ผู้ขับขี่วัยชรามีแนวโน้มจะเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่าคนหนุ่ม ก็เพราะสภาพร่างกายที่ถดถอยลงทำให้คนชรามักใช้ความระมัดระวังในการขับรถเป็นพิเศษ โดยมักขับรถช้าลง เว้นระยะห่างระหว่างรถมากขึ้น รวมถึงเลือกนำรถออกขับในช่วงที่สภาพอากาศเหมาะสม และการจราจรไม่คับคั่ง
ทั้งนี้ ทางการสหราชอาณาจักรกำลังพิจารณาว่า อาจจะจัดทดสอบประสิทธิภาพการขับรถของผู้ถือใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ที่มีอายุมากซ้ำอีกครั้ง ซึ่ง ศ.มัสเซลไวท์ แนะว่า เรื่องที่ควรประเมินเป็นพิเศษก็คือ การตรวจสายตา และการประเมินผลกระทบที่เกิดจากฤทธิ์ของยาที่ต้องมีใบสั่งจากแพทย์
อย่างไรก็ตาม ศ.มัสเซลไวท์ แนะว่าการเพิกถอนใบอนุญาตขับรถของคนชรา อาจทำให้คนกลุ่มนี้สูญเสียอิสระในการไปไหนมาไหนด้วยตนเอง ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาโรคซึมเศร้าได้ ดังนั้นการที่ทางการปรับปรุงท้องถนนเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่กลุ่มนี้ ก็อาจช่วยแก้ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนได้บางส่วน นอกจากนี้ยังเห็นว่า เทคโนโลยีรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองก็อาจเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนสูงอายุในอนาคต
Post A Comment:
0 comments: