ยูเอ็น-องค์กรสิทธินานาชาติกังวลสถานการณ์สิทธิไทย

บีบีซีไทย - BBC Thai

ยูเอ็น-องค์กรสิทธินานาชาติกังวลสถานการณ์สิทธิไทย หลังศาลตัดสินจำคุกนักสิทธิแรงงานชาวอังกฤษฐานหมิ่นโรงงานสับปะรดกระป๋อง

องค์การสหประชาชาติ ฮิวแมนไรท์วอทช์และแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล แสดงความกังวลว่ากรณีศาลไทยตัดสินจำคุกและปรับนักสิทธิแรงงานชาวอังกฤษจะส่งผลกระทบต่อคนทำงานสิทธิมนุษยชนและกระบวนการสืบสวนการละเมิดสิทธิ และต่างชี้ว่าไทยมีการดำเนินคดีกับนักสิทธิมนุษยชนจำนวนมาก โดยเรียกร้องให้ไทยยุติการดำเนินคดีกับนักสิทธิมนุษยชนเหล่านั้น

สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติประจำภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้แถลงภายหลังศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำตัดสินวานนี้ ให้นายแอนดี้ ฮอลล์ นักวิจัยและนักสิทธิแรงงานชาวอังกฤษมีความผิดฐานหมิ่นประมาทและผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เนื่องจากนำเสนอข้อมูลการละเมิดสิทธิแรงงานข้ามชาติในอุตสาหกรรมสับปะรดกระป๋องของไทย โดยจัดทำรายงานและนำเสนอในเว็บไซต์ขององค์กรฟินน์ วอทช์ รวมทั้งจัดแถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย โดยศาลตัดสินจำคุก 3 ปี และปรับ 150,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี

“เพียง 1 วันหลังจากผู้นำโลกประกาศให้คำมั่นต่อปฏิญญาสหประชาชาติที่เป็นหมุดหมายสำคัญว่าจะ ‘เสริมความแข็งแกร่งให้กับบทบาทที่ดีที่แรงงานข้ามชาติมีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในประเทศที่ตนเข้าไปทำงาน’ คำตัดสินของศาลจึงเป็นสิ่งที่น่ากังวลมาก” นายโลคอง เมย์ยอง รักษาการตัวแทนประจำภูมิภาคของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวและระบุว่าแทนที่จะดำเนินคดีกับนายฮอลล์ สิ่งที่สมควรจะทำมากกว่า คือสอบสวนหาข้อมูลอย่างเป็นอิสระและรอบด้านต่อข้อกล่าวหารุนแรงในรายงานของฟินน์วอทช์

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ฯ ยังแสดงความกังวลกับการที่นักปกป้องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยถูกดำเนินคดีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงกรณีนายสมชาย หอมละออ นางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ นางสาวอัญชนา หีมมิหน๊ะ และนางสาวศิริกาญจน์ เจริญศิริ ในปีนี้เพียงปีเดียว ปรากฎว่ามีนักปกป้องสิทธิมนุษยชน 10 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้หญิง 8 ราย ถูกดำเนินคดีในความผิดอาญาในข้อหารายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนและเรียกร้องให้รัฐบาลไทยยกเลิกข้อกล่าวหาทั้งหมดที่มีกับนักปกป้องสิทธิมนุษยชนตามพันธกรณีของตนภายใต้กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ

องค์การฮิวแมนไรท์วอทช์เป็นอีกองค์กรที่ออกมาแสดงความกังวลว่าคำพิพากษานั้นจะส่งผลกระทบต่อผู้ที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยนายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการแผนกเอเชียขององค์การฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุว่า รัฐบาลไทยควรต้องตระหนักว่าเสรีภาพในการสืบเสาะข้อมูลที่บริษัทกระทำละเมิดสิทธินั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งเพื่อที่จะทำให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติที่สอดคล้องกับกฎหมายทั้งกฎหมายแรงงานของไทยและมาตรฐานสากล และบริษัทต่างชาติที่ได้รับสินค้าต่อจากไทยก็ควรจะกดดันทางการไทยและผู้ส่งออกให้ยุติการดำเนินคดีที่ปิดกั้นการวิพากษ์และขัดขวางกระบวนการสืบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชน

ด้านน.ส. แชมพา พาเทลที่ปรึกษาอาวุโสด้านงานวิจัยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลกล่าวว่า คำพิพากษาจำคุกและปรับนายแอนดี้ ฮอลล์เป็นเรื่องที่น่าตกใจและการฟ้องร้องนายฮอลล์นั้นไม่ควรเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ "น่าเสียใจที่คดีแอนดี้ ฮอลล์ เป็นเพียงหนึ่งในคดีหมิ่นประมาททางอาญาหลายคดีที่นักปกป้องสิทธิมนุษยชนต้องเผชิญจากการทำงานที่สำคัญเพื่อช่วยเหลือบุคคลและชุมชนที่เสี่ยงอันตราย ปัจจุบันมีการใช้กฎหมายหมิ่นประมาททางอาญาปิดปากผู้ที่ทำงานเปิดโปงความอยุติธรรมเพื่อประโยชน์สาธารณะ ทางการไทยจำเป็นต้องพิจารณาอย่างจริงจังเกี่ยวกับกฎหมายที่ถูกใช้เพื่อทำลายมากกว่าเพื่อส่งเสริมความยุติธรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง” น.ส. พาเทลกล่าว