About

About
woywhyweb

slider

Recent

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

คลังบทความของบล็อก

Navigation

กระทรวงแรงงาน ตั้งเป้าส่งเสริมจ้างผู้สูงอายุ 2,000 คน ในปีนี้

บีบีซีไทย - BBC Thai

กระทรวงแรงงาน ตั้งเป้าส่งเสริมจ้างผู้สูงอายุ 2,000 คน ในปีนี้

ปลัดกระทรวงแรงงาน ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และนโยบายการขยายอายุการจ้างแรงงานผู้สูงวัยในสถานประกอบการ กับมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสถานประกอบการนำร่องในการจ้างงานผู้สูงอายุ ตั้งเป้าปีนี้ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีงานทำรวมกว่า 2,000 คน

หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน ระบุในการปาฐกถาพิเศษเมื่อวานนี้ หลังเป็นประธานลงนามข้อตกลงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า รัฐบาลเล็งเห็นว่า “ผู้สูงวัย” เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่า เพราะได้สะสมความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ในการทำงานมาอย่างยาวนาน หากได้ถ่ายทอดประสบการณ์ไปยังคนรุ่นหลังก็จะสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมได้เป็นอย่างมาก จึงควรจะส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเหล่านี้อยู่ในตลาดแรงงานยาวนานกว่าเดิม ซึ่งนอกจากจะทำให้มีรายได้ พึ่งพาตนเอง ยังช่วยรักษาแรงงานที่มีคุณภาพให้คงอยู่ในตลาดแรงงานต่อไป และช่วยให้สถานประกอบการได้แรงงานที่มีทักษะ ประสบการณ์ อยู่ร่วมในการทำงาน มีผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมาย โดยปัจจุบันนี้ แรงงานสูงอายุที่มีส่วนร่วมอยู่ในตลาดแรงงานมีจำนวนราว 148,478 คน คิดเป็นร้อยละ 1.42 ของแรงงานในสถานประกอบการทั้งหมด

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงาน ได้พัฒนาปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จำนวน 2 ฉบับ คือ พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน และพระราชบัญญัติประกันสังคม เพื่อรองรับการจ้างงานผู้สูงอายุ โดยการขยายอายุเกษียณจาก 55 ปี เป็น 60 ปีในระยะแรก การคุ้มครองการทำงาน และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ซึ่งคาดว่าร่างแก้ไขจะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคมนี้ รวมไปถึงได้มีการเปิดศูนย์หางานให้ผู้พิการและผู้สูงอายุในกระทรวงแรงงานและหน่วยงานสังกัดทั่วประเทศ นอกจากนี้คณะกรรมการค่าจ้างยังมอบหมายให้อนุกรรมการวิชาการและกลั่นกรอง พิจารณาอัตราค่าจ้างรายชั่วโมงสำหรับผู้สูงอายุมาเสนออีกครั้ง โดยตั้งเป้าหมายส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีงานทำรวมกว่า 2,000 คนในปีนี้

ข้อมูลของกระทรวงแรงงานชี้ว่าประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ซึ่งตามเกณฑ์ขององค์การสหประชาชาติ ประเทศที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปเกินกว่าร้อยละ 10 ของประชากรทั้งประเทศจะถูกจัดเป็นสังคมผู้สูงอายุ ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรรวมทั้งสิ้นประมาณ 64.8 ล้านคน เป็นผู้สูงอายุประมาณ 10 ล้านคนเศษ คิดเป็นร้อยละ 14.9 ของประชากรรวม และประมาณการว่าในปี 2564 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุประมาณร้อยละ 20 ซึ่งจะทำให้เป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ (Aging Society) และในปี 2578 ผู้สูงอายุในประเทศจะมีประมาณร้อยละ 30 และจะถูกจัดเป็นสังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด (Super Aged Society) นอกจากนี้ประเทศไทยยังเป็นประเทศที่ก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็วเป็นอันดับที่ 2 ของภูมิภาคเอเชีย รองจากประเทศสิงคโปร์ โดยมีประเทศบรูไน และเวียดนามอยู่ในอันดับ 3 และ 4 ตามลำดับ ทั้งนี้สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทยเกิดขึ้นพร้อมกับสถานการณ์แนวโน้มการขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากวัยแรงงานที่เข้าสู่ตลาดแรงงานมีแนวโน้มลดลง
Share
Banner

Post A Comment:

0 comments: