สหรัฐฯ และรัสเซียบรรลุข้อตกลงความร่วมมือเพื่อสันติภาพซีเรีย
นายจอห์น เคอร์รี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ร่วมแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (9 ก.ย.) ว่าสหรัฐฯ และรัสเซียต่างเห็นชอบในข้อตกลงความร่วมมือเพื่อผลักดันสันติภาพในประเทศซีเรีย โดยจะเริ่มจากการพิจารณาหยุดยิงตั้งแต่พระอาทิตย์ตกในวันจันทร์ที่ 12 ก.ย.ตามเวลาท้องถิ่นซีเรีย
ข้อตกลงดังกล่าวระบุว่ารัฐบาลซีเรียจะต้องยุติปฏิบัติการต่อสู้ในบางพื้นที่ซึ่งเป็นเขตยึดครองของกลุ่มติดอาวุธฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ขณะที่รัสเซียและสหรัฐฯ จะร่วมจัดตั้งศูนย์บัญชาการการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธที่เรียกตนเองว่ารัฐอิสลาม (ไอเอส) และกลุ่มอัล-นูสรา ซึ่งเป็นแนวร่วมของเครือข่ายก่อการร้ายอัล-เคดา รวมถึงเปิดทางให้องค์กรความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ท่ามกลางสมรภูมิสู้รบในซีเรีย
รายงานข่าวระบุว่าการเจรจาข้อตกลงความร่วมมือระหว่างนายเคอร์รีและนายลาฟรอฟซึ่งจัดขึ้นที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ใช้เวลานานถึง 7 วันกว่าจะบรรลุข้อตกลง ซึ่งทั้งสองฝ่ายคาดว่าจะนำไปสู่กระบวนการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองซีเรีย รวมถึงการเจรจาต่อรองเพื่อยุติสงครามความขัดแย้งต่อไปในอนาคต
ด้านนายสตัฟฟาน เดอ มิสทูรา ทูตพิเศษแห่งสหประชาชาติประจำซีเรีย แสดงความยินดีต่อการบรรลุข้อตกลงความร่วมมือของสหรัฐฯ และรัสเซีย พร้อมระบุว่าสหประชาชาติจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อส่งความช่วยเหลือไปให้แก่ประชาชนชาวซีเรียซึ่งยังตกค้างในพื้นที่สู้รบ โดยเฉพาะที่เมืองอเลปโป ทางตะวันออกของซีเรีย ซึ่งมีการสู้รบอย่างต่อเนื่องช่วงที่ผ่านมา และนายมิสทูราเตือนว่าประชาชนในเมืองอเลปโปจะประสบภาวะขาดแคลนอาหารและน้ำหากไม่ได้รับการช่วยเหลือทันเวลา
ที่ผ่านมา สหรัฐฯ สนับสนุนกลุ่มติดอาวุธฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ซึ่งสหรัฐฯ มองว่าเป็นคนละฝ่ายกับกลุ่มไอเอสและกลุ่มอัล-นูสราซึ่งมีแนวคิดสุดโต่ง ขณะที่รัสเซียสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย ซึ่งใช้กำลังเข้าปราบปรามกลุ่มติดอาวุธฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียที่ลุกฮือขึ้นจับอาวุธตั้งแต่ปี 2554 ขณะที่รัสเซียมองว่ากลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียเป็นฝ่ายใช้ความรุนแรงไม่ต่างจากกลุ่มไอเอสและกลุ่มอัล-นูสรา
Post A Comment:
0 comments: