เกาหลีเหนือมีความคืบหน้าในโครงการนิวเคลียร์ไปแล้วเพียงใด?

บีบีซีไทย - BBC Thai

เกาหลีเหนือมีความคืบหน้าในโครงการนิวเคลียร์ไปแล้วเพียงใด?

เกาหลีเหนือสร้างความวิตกกังวลให้ประชาคมโลกอีกครั้ง หลังจากออกมาประกาศข่าวความสำเร็จในการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 5 ในวันนี้ (9 ก.ย.) ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ที่สุดของเกาหลีเหนือนับแต่เคยมีมา

เกาหลีเหนือเริ่มโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์มานานหลายปีแล้ว โดยเมื่อเดือน ต.ค. 2549 ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลเกาหลีเหนือออกมาประกาศข่าวการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งแรก ที่ฐานทดสอบนิวเคลียร์ปุงเก-รี ซึ่งแหล่งข่าวจากโรงงานนิวเคลียร์ยองเบียนระบุว่า ระเบิดดังกล่าวใช้พลูโตเนียมเป็นส่วนประกอบ บรรดาผู้สังเกตการณ์นานาชาติคาดว่าระเบิดลูกนี้น่าจะมีพลังทำลายล้างราว 1 กิโลตัน หรือมีอานุภาพไม่ถึง 1 ใน 10 ของระเบิดนิวเคลียร์ที่สหรัฐฯใช้ถล่มเมืองฮิโรชิมา ของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

การทดสอบนิวเคลียร์ครั้งต่อมาของเกาหลีเหนือมีขึ้นในเดือน พ.ค. 2552 คาดว่าระเบิดนิวเคลียร์ลูกที่ 2 น่าจะมีอานุภาพทำลายล้างราว 2-8 กิโลตัน พร้อมกันนี้เกาหลีเหนือยังทดสอบขีปนาวุธที่อ้างว่ามีพิสัยการยิงได้ไกลถึงสหรัฐฯอีกด้วย

ส่วนการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 3 มีขึ้นเมื่อเดือน ก.พ.2556 ซึ่งเกาหลีเหนืออ้างว่าสามารถย่อขนาดและทำให้ระเบิดนิวเคลียร์มีน้ำหนักเบากว่าเดิม จนทำให้หลายฝ่ายเกรงว่าเกาหลีเหนือกำลังใกล้จะประสบความสำเร็จในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ขนาดเล็กจนสามารถใช้ติดตั้งที่ขีปนาวุธพิสัยไกลได้ ซึ่งในช่วงเดียวกันมีรายงานว่า เกาหลีเหนือประสบความสำเร็จในการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมสำหรับใช้ในโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ด้วย

ถัดมาอีกราว 3 ปี คือในเดือน ม.ค.ปีนี้ เกาหลีเหนือประกาศข่าวความสำเร็จในการทดสอบระเบิดไฮโดรเจน หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ระเบิดเทอร์โมนิวเคลียร์ ที่ฐานทดสอบนิวเคลียร์ปุงเก-รี ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ระเบิดชนิดนี้มีอานุภาพรุนแรงกว่าระเบิดนิวเคลียร์หลายเท่า แต่บรรดานักสังเกตการณ์ระบุว่า แรงสั่นสะเทือนที่ตรวจจับได้บริเวณฐานทดสอบบ่งชี้ว่าระเบิดดังกล่าวไม่น่าจะใช่ระเบิดไฮโดรเจน

และเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือประกาศว่าทีมนักวิทยาศาสตร์ของตนประสบความสำเร็จในการพัฒนาหัวรบนิวเคลียร์ได้สำเร็จ หลังจากเพิ่งขู่จะโจมตีสหรัฐฯและเกาหลีใต้แบบไม่เลือกหน้า อย่างไรก็ตามบรรดาผู้เชี่ยวชาญยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าคำกล่าวอ้างดังกล่าวของผู้นำเกาหลีเหนือเป็นจริงหรือไม่ #NorthKorea #Nucleartest